บทความนี้สนับสนุนโดย Moty’s Oil Thailand

 

เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง (Straight-six หรือ Inline-six) ถือเป็นเครื่องยนต์ยอดนิยม ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจให้ไปประจำการในรถยนต์ระดับตำนานมากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์รหัส RB ของ NISSAN, เครื่องยนต์ตระกูล JZ อันโด่งดังของ TOYOTA รวมไปถึง 6-สูบเรียงจากค่ายใบพัดสีฟ้า BMW (บล็อก M,N และ B) ...เครื่องยนต์เหล่านี้กลายมาอาวุธที่สร้างความน่าเกรงขามให้กับรถยนต์ระตำนานรุ่นแล้ว-รุ่นเล่า

 

 

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ เครื่องยนต์ V6 เริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมาก นั่นทำให้จำนวนของเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง ได้ถูกตัดทอน-ลดจำนวนลงอย่างน่าเสียดาย แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่า ‘ความขลัง’ มันไม่มีวันหมดอายุ เพราะฉะนั้น ในวันนี้ เราจะย้อนกลับไปในยุคที่ 6-สูบเรียง กำลังรุ่งโรจน์ …เพื่อไปหาคำตอบกันว่า พื้นฐานทางวิศวกรรมในส่วนใดบ้าง ที่ทำให้เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในยุคนั้น

 

TOYOTA SUPRA MK4 - เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง - 2JZ

 

เหตุผลข้อที่ 1

เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง มีความสมดุลโดยธรรมชาติ (Naturally-balanced)

ถ้ามองจากด้านข้างแล้ว เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง จะมีความสมมาตรโดยสมบูรณ์ เมื่อสังเกตการเคลื่อนที่ของ ‘ลูกสูบ-ชุดซ้าย’ (สามลูกด้านซ้าย) จะมีทิศทางการเคลื่อนที่เหมือนกัน ‘ลูกสูบ-ชุดขวา’ (สามลูกด้านขวา) นั่นหมายความว่า ลูกสูบ#1 เคลื่อนที่ขึ้นลงพร้อมกับลูกสูบ#6, ลูกสูบ#2 เคลื่อนที่ขึ้นลงพร้อมกับลูกสูบ#5, ลูกสูบ#3 เคลื่อนที่ขึ้นลงพร้อมกับลูกสูบ#4

 

 

การเคลื่อนที่อย่างสมมาตรกันในลักษณะนี้ ส่งผลให้เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง เดินได้เรียบทั้งในรอบต่ำและรอบสูง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีการบาลานซ์เกินความจำเป็น ตรงกันข้ามกับเครื่องยนต์ 3-สูบ รวมไปถึงเครื่องยนต์ V6 ที่ต้องมีการบาลานซ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เครื่องยนต์เดินได้เรียบและไม่มีการสั่น

 

เหตุผลข้อที่ 2

เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง มีกลไกทำงานที่ไม่ซับซ้อน

เครื่องยนต์ 6-สูบเรียงนั้น เป็นการนำเอากระบอกสูบมาเรียงกันในแนวตรง ทำให้สามารถเดินท่อไอดี-และ-ไอเสียได้อย่างสะดวก (ไอดีเข้าฝั่งหนึ่ง – ไอเสียเข้าอีกฝั่งหนึ่ง) เป็นผลให้ระบบวาล์วไม่มีความซับซ้อนเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์บล็อค-วี นอกจากนั้นแล้ว แคมชาฟท์ ก็จะมีจำนวนเพียงแต่ 1-คู่ (เครื่องยนต์บล็อค-วี มีแคมชาฟท์ 2-คู่)

 

 

ตำแหน่งของชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกของเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเครื่องยนต์ 4-สูบ โดยทั่วไป เป็นผลให้เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง สามารถบำรุงรักษาและซ่อมแซมได้ง่าย

 

NISSAN SKYLINE R34 - เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง - RB26DETT

 

เหตุผลข้อที่ 3

เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ

เนื่องจากว่า การขึ้นรูปเสื้อสูบและฝาสูบของเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง มีความสมมาตรและไม่มีความซับซ้อน ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า อีกทั้งเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง มีจำนวนชิ้นส่วนภายในที่น้อยกว่า (เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์บล็อค-วี) ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงไปอีก และปัจจัยเรื่องต้นทุนการผลิตนี้เอง ที่ทำให้เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ต่างพากันเอาจริงเอาจังกับการพีฒนาเครื่องยนต์ประเภทนี้  จนกระทั่งเครื่องยนต์ 6-สูบเรียงได้รับการขนานนามในวงการอุตสาหกรรมว่า ...เป็นเครื่องยนต์ที่มีความ ‘คุ้มค่า’ มากที่สุด ซึ่งความคุ้มค่าในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงอัตราการประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด หากแต่หมายความว่า เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง เป็นเครื่องยนต์ที่มีต้นทุนผลิตที่ต่ำ แต่สามารถให้กำลังได้อย่างเหลือเฟือ เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไปกับการวิจัยและพัฒนานั่นเองครับ

 

 

ถึงแม้ว่าการนำเอากระบอกสูบมาเรียงต่อเนื่องนั้น จะทำให้สามารถผลิตได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ แต่สิ่งที่ตามก็คือความร้อนสะสมภายกระบอกสูบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบอกสูบที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นกระบอกสูบที่อยู่ด้านในสุด ระบบระบายความร้อนที่ดี รวมไปถึงน้ำมันเครื่องทนความร้อนสูงจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง

 

โซนโปรโมทสินค้า

วันนี้ ผมก็เลยจะขออนุญาตมาแนะนำน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงจาก Moty’s นั่นก็คือ Moty’s M111H ที่เหมาะสำหรับสายบูสต์ อย่างเครื่องยนต์เทอร์โบ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของ ความร้อน ที่มาพร้อมกับ ความแรง ...น้ำมันเครื่อง Moty’s M111H ถูกพัฒนาขึ้นมาจากรุ่น M111 (น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ NA) ให้สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นอีก เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศ ไม่ว่าจะบูสต์เบาหรือบูสต์หนัก รวมไปถึงเครื่องยนต์ NA ที่ได้รับการโมดิฟายมาหนัก ก็สามารถใช้น้ำมันเครื่อง Moty’s M111H ได้อย่างไม่มีปัญหา

นอกจากนั้นแล้ว Moty’s M119 น้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดของ Moty’s ใช้เอสเตอร์เป็นน้ำมันเครื่องพื้นฐาน (Base Oil) ให้การปกป้องที่สูงมากๆ ในสภาวะการทำงานที่อุณหภูมิและภาระสูง และยังสามารถปกป้องชิ้นส่วนที่น้ำมันหล่อลื่นเข้าถึงได้ยาก เช่น ชิ้นส่วนของระบบวาล์ว, ชาฟท์อก-ชาฟท์ก้าน รวมไปถึงสลักข้อเหวี่ยง ซึ่งชิ้นส่วนเปราะบางพวกนี้ ถือเป็นจุดอ่อนของเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง

 

 

เหตุผลข้อที่ 4

เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง โมดิฟายได้ง่ายกว่า

เนื่องจากเครื่องยนต์ 6-สูบเรียงนั้น มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ทำให้ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องทำการ ‘ลดต้นทุน’ โดยการลดความหนาของเนื้อเหล็ก หรือว่าลดความแข็งแรงของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ นั่นทำให้เครื่องประเภท 6-สูบเรียง มี ‘ความอึด’ จากโรงงานอยู่พอตัว สามารถทำการโมดิฟายต่อยอดได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์ 6-สูบเรียงที่มาพร้อมกับระบบอัดอากาศประเภทเทอร์โบชาร์จเจอร์ เพียงแค่ปรับบูสต์เพิ่มอีกนิดหน่อย ก็ได้แรงม้าเพิ่มมาอีกฝูง โดยที่ไม่ต้องทำการอัพเกรดชิ้นส่วนภายในแต่อย่างใด

 

นอกจากนั้นแล้ว เครื่องยนต์ 6-สูบเรียงนั้น ถือได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งทั้งในวงการรถแข่งมืออาชีพ รวมไปถึงวงการรถซิ่งสายสตรีท ทำให้มีอะไหล่และของแต่งมีให้เลือกสรรอย่างมากมาย เรียกได้ว่าสามารถทำการปรับแต่ง-ต่อยอดได้แบบยาวๆ เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ที่ท่านผู้อ่านได้อ่านมาทั้งหมดนี้ ก็คือ ‘ข้อดี’ ของเครื่องยนต์ 6-สูบเรียง และแน่นอนว่า เหรียญมีสองด้านฉันใด เครื่องยนต์ 6-สูบเรียงก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียฉันนั้น

เนื่องจากว่า เครื่องยนต์ 6-สูบเรียงมีขนาดที่เทอะทะ และกินพื้นที่ห้องเครื่องยนต์ในแนวยาว ทำให้เครื่องยนต์ประเภทนี้ ไม่ค่อยได้รับความนิยมในรถยนต์ขนาดเล็กที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าสักเท่าไหร่ นอกจากนั้นแล้ว เพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยวก็มีขนาดยาวกว่าเครื่องยนต์โดยทั่ว นำมาซึ่งปัญหาในเรื่องของการ ‘ให้ตัว’ และ ‘คดงอ’ ของเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยว ซึ่งเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงและยาวนาน

 

Nissan GT-R R35 - เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จเจอร์

Nissan Skyline GT-R R34 - เครื่องยนต์ 6-สูบเรียง เทอร์โบชาร์จเจอร์

 

และด้วยจุดอ่อนของเครื่องยนต์ 6-สูบเรียงที่ได้กล่าวมาเมื่อสักครู่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของขนาดที่เทอะทะ ทำให้เครื่องยนต์ V6 กลายมาเป็นตัวตาย-ตัวแทน และได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

สำหรับบทความนี้ ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้นะครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อย และท่านผู้อ่านสามารถติดตามบทความเชิงเทคนิคแนวนี้ ได้โดยตรงทาง แฟนเพจ Joh’s Autolife ได้เลยครับ

และสำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจในผลิตภัณฑ์ของ Moty’s ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ธรรมดา เกียร์ออโต้ หรือน้ำมันเกียร์ระบบคลัตช์คู่ รวมไปถึงของเหลวหล่อลื่นต่างๆ ก็สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ แฟนเพจ Moty’s Oil Thailand หรือเข้าไปเยี่ยมชมเว็ปไซต์ของ Moty’s ได้ทาง https://motysthailand.wordpress.com/

 

Credit Pictures;

www.carthrottle.com

www.dsportmag.com

www.stancenation.com

 

Get Connected | ติดต่อกับพวกเราได้ที่...